แนวคิดเรื่องความเป็นอมตะ
หรือการมีสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ไปตลอดกาลเป็นแนวคิดที่ทรงพลัง
ซึ่งในแต่ละสังคมก็มีเรื่องราวและความเชื่อที่แตกต่างกันไป ซึ่งเราอาจไม่ได้อยู่อย่างเป็นอมตะ
แต่เรารู้ว่า จะเพิ่มโอกาสการอยู่อย่างสุขภาพดีไปตลอดชีวิตได้อย่างไร แม้เราจะไม่มีวิธีที่จะย้อนกระบวนการชราที่เกิดขึ้นแล้วได้
แต่เราสามารถชะลอวัยได้ และการถดถอยที่มักจะเข้าใจว่าเป็น “การแก่ตามธรรมชาติ” ไม่ใช่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่อย่างใด เราสามารถที่จะอยู่ยืนยาวขึ้นอีก 5–10 ปี ดูอ่อนกว่าวัยขึ้นแข็งแรงขึ้น และรู้สึกกระปรี้กระเปร่าในการใช้ชีวิต เราสามารถวางแผนเฉลิมฉลองให้กับอายุที่มากขึ้น
แทนที่จะต้องหวาดระแวงกับความแก่ที่คืบคลานเข้ามา ดังนั้น พวกเราจะมีสุขภาพที่ดีตลอดไปได้ด้วยการปฏิบัติตามวิธีการดูแลสุขภาพและชีวิตแบบไทยที่มีความเป็นเอกลักษณ์
โดยมีพื้นฐานนับร้อยปีจากภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย ซึ่งประกอบไปด้วย
การรับประทานอาหารแบบไทย การออกกำลังกายในแบบไทย จิตวิญญาณการมองโลกในแบบไทย
การปฏิบัติตนที่ช่วยคลายความเครียด เป็นการควบรวมการดูแลสุขภาพในแบบไทยและแบบตะวันออกเข้าด้วยกัน
จริง ๆ แล้ว การรับประทานอาหารในแบบไทยอย่างเดียว
ก็เป็นดั่งยาอายุวัฒนะที่ทรงพลังแล้ว ด้วยอาหารแคลอรีต่ำที่มีส่วนประกอบจากพืช
และแป้งไม่ขัดสี ไม่เพียงแต่จะตรงกับคำแนะนำของสถาบันมะเร็ง แต่ยังเหนือชั้นกว่าคำแนะนำมาตรฐานขึ้นไปอีก
โดยอาหารไทยสามารถตอบโจทย์อาหารเพื่อสุขภาพที่ผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์
และการแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำไว้ทั้งหมด ว่าเป็นอาหารที่ช่วยป้องกันโรคส่วนใหญ่ที่สัมพันธ์กับความชรา
รวมไปถึงโรคหลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง และโรคหลอดเลือดสมอง อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ที่รับประทานคงความผอมเพรียวและสุขภาพดีไปตลอดชีวิต
คุณประโยชน์ที่กล่าวไปนี้ ล้วนมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนรวมทั้งงานวิจัยต่าง
ๆ ด้วย ที่สำคัญยังช่วยลบล้างความเชื่อเรื่องการรับประทานอาหารแบบโลว์คาร์บไดเอต (Low-carb / Low-carbohydrate) ที่กำลังอยู่ในกระแสสังคม น่าจะพอกันทีกับ “การคลั่งอาหารตามแฟชั่น”
แต่โบราณคนไทยจะออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต
โดยมีเป้าหมายสูงสุดที่จะบ่มเพาะสุขภาพที่ดีผ่านทางวิถีชีวิต ซึ่งปฏิบัติกันแพร่หลายมาหลายร้อยปีแล้ว
ดังเช่นการเต้นรำพื้นเมืองในแต่ละท้องถิ่น ทั้งชายหญิงได้เรียนรู้มาตั้งแต่วัยเยาว์
และยังคงฝึกฝน มีงานเทศกาลรื่นเริงในแต่ละช่วงฤดูกาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่า
เป็น “พลังชีวิต”
และเป็นการใช้วิถีชีวิตอย่างสมดุลสอดคล้องกับวิถีธรรมชาติโดยแท้จริง
โดยในแต่ละกิจกรรม เทศกาลงานรื่นเริงต่าง ๆ ยังได้ช่วยเสริมสร้างความศรัทธา
ความรัก ความสามัคคีไปพร้อม ๆ กัน จึงก่อให้เกิดพลังแห่งการเยียวยารักษาเพิ่มขึ้น
การใช้ชีวิตแบบชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องจิตวิญญาณในทุก
ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่ที่ผสมผสานความเชื่อ
ในเรื่องความเคารพยำเกรงต่อธรรมชาติ ความเชื่อในวัฒนธรรมไทยในเรื่องความเคารพนับถือผู้อื่น
และจิตวิญญาณของชนพื้นเมือง
ซึ่งเชื่อว่าผู้หญิงเป็นผู้รักษาความเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณ
ระหว่างสังคมยุคใหม่และทุกสิ่งในอดีต และการให้ความเคารพต่อผู้อาวุโส ดังเช่น
ประเพณีรดน้ำดำหัว ที่ถือว่า การแก่อย่างมีคุณภาพ ควรเฉลิมฉลองด้วยพิธีกรรม
แนวคิดการตอบแทนซึ่งกันและกันของไทยที่มีมาแต่โบราณ
ถือเป็นปรัชญาที่เป็นรากฐานของการทำงานร่วมกัน โดยคนในหมู่บ้านจะร่วมมือกันปลูกพืช
เก็บเกี่ยวผลผลิต และพึ่งพากันเพื่อความอยู่รอด “การลงแขกเกี่ยวข้าวประเพณีของชาวนาไทย”
อาจคล้ายกับ “การช่วยเหลือเพื่อนบ้าน” ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาวนาไทย
ซึ่งความสัมพันธ์ส่วนบุคคลลักษณะนี้ เป็นความสัมพันธ์ที่ทรงพลัง
จากการศึกษางานวิจัย พบว่า ไม่เพียงแต่ช่วยให้ชีวิตยืนยาวขึ้น
แต่ยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้ด้วย ช่างโชคดีที่มีแนวคิดดี ๆ อย่างนี้มาใช้ในการดำเนินวิถีชีวิตของชาวนาไทย
จุดแข็งของวิถีชีวิตของไทย คือ “ศาสตร์ด้านสมุนไพร” ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของตัวเอง
แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงถึงวิธีการแบ่งบัน ความแข็งแกร่งมาจากผู้อื่นด้วย
ซึ่งไม่ได้มีจุดหมายเพียงเพื่อให้ปลอดโรค
แต่ยังรวมไปถึงความสมบูรณ์สูงสุดของสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ
โดยใช้วิธีการบ่มเพาะผ่านการใช้ชีวิตประจำวันที่นำไปสู่สุขภาพที่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ
การมีสุขภาพอันยืนยาวของผู้สูงอายุไทยในชนบทปัจจุบันนี้
เป็นคำตอบของ “การชะลอวัย” ด้วยเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่แท้จริง ดังนั้น
เราควรเก็บรักษาวิถีดั้งเดิมวิถีแห่งความเป็นไทยดั้งเดิม และนำสู่สายตาชาวโลก
ก่อนที่จะหายสาบสูญไป โดยให้ความสำคัญในทุก ๆ ด้านตั้งแต่เรื่องอาหาร
ไปจนถึงจิตวิญญาณ ความสัมพันธ์ของคนในสังคม และการดูแลผิวพรรณ สุขภาพที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น