ชิมแต่พองาม อย่าสวาปาม
ในชีวิตประจำวันที่ยุ่งเหยิง มักทำให้ลืมความจริงข้อนี้ไป และไม่ได้ให้ความสนใจกับความสัมพันธ์ระหว่าง “อาหาร-จิตใจ-ร่ายกาย” อย่างที่ควรจะเป็น เราจึงควรนึกถึงประโยชน์ของอาหารที่ดีมีคุณค่า ห่วงใยสุขภาพตัวเองพอที่จะคิดก่อนที่จะเติมอาหารใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย
รับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ
หลายมื้อดีต่อร่างกายมากกว่าการรับประทานอาหารสามมื้อใหญ่ แม้ว่า
ปริมาณแคลอรีรวมจะเท่ากัน หนึ่งในการศึกษา พบว่า
การแบ่งแคลอรีที่รับประทานออกเป็นมื้อเล็ก ๆ แปดมื้อ
แทนที่จะรับประทานเป็นมื้อใหญ่สามมื้อ จะช่วยให้ไขมัน LDL (ตัว
ไม่ดี) ลดลงได้ถึงร้อยละ 13 ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงร้อยละ 4
ระดับอินซูลินในเลือดลดลงถึงร้อยละ 28 ซึ่งจัดได้ว่า สูงมาก
(การสร้างอินซูลินมากไป อาจก็ให้เกิดโรคเบาหวานและโรคมะเร็งได้) และยังมีข้อดีกับสุขภาพอื่น ๆ อีกมาก
การอดอาหารมาตลอดทั้งวัน แล้วมาสวาปามในตอนกลางคืนไม่ช่วยให้สุขภาพดีหรือผอมลงได้แต่อย่างใด ลองจินตนาการว่า พฤติกรรมแบบนี้จะส่งผลให้ถึงระดับอินซูลินของคุณอย่างไร!!! ดังนั้น ขอแนะนำวิธีรับประทานอาหารแต่พองาม ดังนี้
สัดส่วนอาหาร
การเสิร์ฟอาหารด้วยปริมาณเพียง 2 ใน 3 หรือครึ่งหนึ่งของปริมาณที่เสิร์ฟในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา และเมื่อ คุณเกิดอยากรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หรือ “อาหารตามใจปาก” เช่น
มันฝรั่งทอดกรอบ คุกกี้ช็อกโกแล็ตชิพ
พยายามหาซื้อถุงขนาดเล็กที่สุดที่มีขาย (ลองนึกถึงขนาดตัวอย่างทดลองชิม)
จะช่วยให้คุณทำร้ายร่างกายตัวเองน้อยลง และไม่รู้สึกอยากมากนัก
คุณสามารถปฏิบัติเพื่อวางแผนการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพได้ดีขึ้น และจะดียิ่งขึ้น หากคุณรับประทานของว่างที่ดีต่อสุขภาพในเวลาที่รู้สึก “ความหิวจู่โจม”
- *ขนมปังโฮลเกรนหนึ่งชิ้น กับฮัมมุส 1 ช้อนโต๊ะ (ถั่วกาบันโซผสมกับถั่วชิกพี สำหรับทาขนมปัง)
- *อิงลิสมัฟฟินโฮลเกรน 1 ชิ้น กับครีมชีสไร้ไขมัน 1 ช้อนโต๊ะ
- *แคนตาลูปครึ่งผลรับประทานกับโยเกิร์ตไขมันต่ำ
- *มันอบกับซาวครีมไร้ไขมัน
- *เบอร์เกอร์มังสวิรัติแบบอุ่นไมโครเวฟได้ กับมิโสะเนส ผักกาดหอม และมะเขือเทศ
- *ถั่วเหลือง 1 กำมือ (ไม่เติมเกลือ หรือเติมเพียงเล็กน้อย)
- *ก้านผักชีฝรั่งรับประทานกับฮัมมุส เนยอัลมอนด์ หรือเนยถั่วลิสง (ตรวจสอบฉลากว่าไม่มีไขมันไฮโดรจีเนต หรือหาแบบสด ๆ ได้จะดีที่สุด)
- *ผลไม้หั่นเป็นชิ้นๆ
- *มัฟฟินไขมันต่ำ
- *ขนมอบทำจากแป้งข้าวกล้อง รับประทานกับชีสคอตเทจแบบไร้ไขมันและมะเขือเทศฝาน
ดั้งนั้น สิ่งที่เราควรระลึกไว้เสมอ คือ “อาหารที่เลือกรับประทานในวันนี้ จะเป็นตัวกำหนดสุขภาพของเราในภายภาคหน้า” ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่ทราบดีว่า “รับประทานอาหารอย่างไร เราก็เป็นอย่างนั้น” และเราต้องจำไว้เสมอว่า ความสำคัญอยู่ที่ “คุณภาพ” ไม่ใช่ “ปริมาณ”
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น